เหตุเกินวันนี้ ทำให้ผมต้องมาเขียนบทความนี้ เพราะรู้สึกไม่ไหวจริงๆ ไม่มีการปรับปรุงตามยุคสมัย บริการก็ไม่ดี พูดจาก็ไม่ดี
ผมเข้าไปซื้อสินค้าร้านนึงในตัวอำเภอเมือง ห่างจากบ้านไม่ไกลนัก ซึ่งเป็นร้านขายปลีกแนวๆ ช่าง สารพัดอย่าง มีทุกที่ คิดว่าคนไทยเคยชินกับร้านพวกนี้อยู่แล้ว น่าจะนึกภาพออก เป็นร้านตึกแถว ซึ่งผมได้ไปหาจากร้านแรกมาแล้วแต่ไม่มี เลยมาร้านนี้และคาดหวังว่าจะมีสินค้าที่ผมต้องการซื้อ เข้าไปเจอพนักงานและบอกความต้องการไป พร้อมทั้งเปิดภาพจากโทรศัพท์ให้ดู (ซึ่งคิดไว้แล้วว่าต้องได้ใช้แน่นอน) พนักงานอีกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ (ไม่รู้เจ้าของร้านหรือพนักงาน) ก็ถามใช้ทำอะไร ใช้เองหรือป่าว ผมก็บอกไปว่าใช้เอง (ซึ่งสินค้าอันนี้ผมเคยซื้อและเคยใช้มาก่อนแล้ว) และพนักงงานคนนั้นก็พยายามแสดงความรู้ ความเชี่ยวชาญว่า ยี่ห้อนี้ใช่หรือป่าว เอาไปใช้แบบนี้ใช่มั้ย เค้าบอกอีกคนว่าเอาฝาสีเหลืองมา ผมบอกว่าผมไม่ได้ใช้แบบนั้น ผมใช้อีกแบบนึงที่เอามาผสมกัน คุณสมบัติมันเป็นยังไง เหมือนกันหรือป่าว เค้าก็ย้อนกับไปคำถามแรกว่าเอาไปทำแบบนี้ใช่มั้ย ใช้ได้เหมือนกัน คือสินค้าตัวนี้มันใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ผมต้องเอาภาพในโทรศัพท์ให้ดู เค้าถึงบอกแบบนี้ไม่มี ตอนแรกผมนึกว่าเค้าเห็นหรือเข้าใจที่ผมบอก เพราะร้านพวกนี้น่าจะมีขาย ผมเริ่มไม่พอใจ จึงเดินออกจากร้านอย่างรวดเร็ว และขับรถไปเจออีกร้านนึง ไม่มั่นใจว่ามีหรือป่าว เลยลองแวะเข้าไปถาม และเอาภาพในโทรศัพท์ให้ดู ปรากฎว่ามี ลักษณะร้านก็เหมือนๆ กัน คือมีพนักงานมาถาม แล้วเราก็ต้องบอกให้ถูกว่าเอาแบบนี้ อันนี้ บางทีเราเรียกไม่ถูกก็ซื้อไม่ได้ ไม่เข้าใจกัน หลายคนน่าจะเคยเจอ
ในที่สุดก็ได้สินค้าที่ผมต้องการ คือร้านที่สาม
ถ้าเปรียบเทียบร้านค้าปลีกกับการเดินซื้อสินค้าในห้างและร้านค้าออนไลน์ ผมเลือกสองแบบหลังนี้มากกว่า ถึงราคาจะสูงกว่านิดหน่อยก็ยินดีจ่าย (แต่ที่ผมซื้อมาราคาแพงกว่าสั่งออนไลน์อีก)
มันดียังไงเหรอ ห้างกับออนไลน์
ห้าง เราสามารถเดินเลือกสินค้าได้เลย ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายกับพนักงาน เดินดูนานแค่ไหนก็ได้ (แต่ก็ควรซื้ออ่ะนะ) หากหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าวางขายอยู่ตรงไหน ก็สามารถถามพนักงานได้เลย ไม่ใช่พูดจาไม่รับแขก ไม่สนใจลูกค้า สะดวกสะบายกว่ากันเยอะ แต่ข้อเสียคือ
1. มีสินค้าน้อย และห้างพวกนี้จะอยู่ในอำเภอเมืองซะมากกว่า ซึ่งไกลมาก อีกอย่างประเทศไทยมีห้างที่ขายสินค้าเฉพาะอย่างน้อยมาก ส่วนใหญ่จะรวมๆ มาไว้ในห้างเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ขายของงานประปา ก็ควรมีแต่สินค้าที่เกี่ยวข้องกับประปาขายอย่างเดียว อย่างอื่นไม่มี ในประเทศไทยมีห้างแบบนี้น้อยมากๆ
2. การบริการ ความรู้ต่างๆ ของพนักงาน ก็ถือว่าปานกลาง น้อยมากที่จะเจอดีๆ ความรู้แน่นๆ ไม่ไปโจมตียี่ห้อคู่แข่ง แต่ส่วนตัวคิดว่ายังไงก็ดีกว่าร้านขายปลีกทั่วๆ ไปที่ผมเจอวันนี้
ออนไลน์ ตอนนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลายแห่งให้เราเลือกซื้อ และร้านค้าก็สามารถเลือกขายได้ ค่าธรรมเนียมการขายมีบ้าง ไม่มีบ้าง บางร้านค้าก็ทำเว็บขายเองเลย สะดวกมาก ไม่ต้องขับรถออกไปซื้อ ไม่ต้องไปเดินหา ไม่ต้องไปอธิบายอะไรให้ยุ่งยาก ไม่เจอการพูดที่ไม่มีมารยาท
แต่ข้อเสียคือ
1. เราไม่เห็นสินค้า แต่ตรงนี้สามารถหักลบได้ด้วย ร้านค้าต้องมีภาพสินค้าหลายภาพ หลายมุม ถ่ายจากสินค้าจริง บอกรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน และข้อควรรู้ที่จำเป็น ห้ามผิดพลาด รวมถึงมีวีดีโอด้วยยิ่งดี แต่หลายร้านค้ามากๆ ยังไม่ใส่ใจข้อนี้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
2. ต้องรอ หากใครอยู่ไกลจากจุดส่งสินค้าของร้านค้า ก็ต้องรอหลายวัน อันนี้คือข้อเสียหลักๆ เลยที่ผมต้องไปซื้อสินค้าวันนี้ คือมันจำเป็นต้องงานใช้ด่วน เลยต้องไปซื้อกับร้านพวกนี้
3. สินค้าชิ้นใหญ่หรือสินค้าที่ขนส่งลำบาก เราจะไม่สามารถสั่งซื้ออนไลน์ได้ น่าเสียดายมาก แต่ในอนาคตผมคิดว่าทุกร้านค้าคงต้องปรับตัวและหาวิธีขายจนได้ ใครเริ่มก่อนได้เปรียบ
4.การบริการ การตอบคำถาม ควรใช้คำที่สุภาพและ มีความรู้พอสมควรกับสินค้าที่ขาย
สรุป ยังไงผมก็ชอบซื้อสินค้าที่ห้างกับออนไลน์มากกว่า และการใช้ชิวิตตอนนี้ ผมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ไม่ชอบออกไปไหน ระบบขนส่งสาธารณะยังแย่มากๆ ไปไหน มาไหน ไม่สะดวก ขับรถเองก็อันตราย เปลืองน้ำมัน ขับรถบนถนนในประเทศไทย ทุกคนน่าจะรู้ดีว่าเป็นยังไง
หากร้านค้าปลีกพวกนี้ไม่พยายามปรับตัว ไม่ใส่ใจลูกค้า คนรุ่นใหม่ๆ ที่มีมากขึ้นทุกวัน ไม่เข้าไปซื้อสินค้าของคุณ หรือซื้อน้อยลง สักวันร้านค้าคุณก็จะหายสาบสูญไปเอง ณ ปัจจุบันผมเชื่อเป็นอย่างมากว่ายอดขายร้านค้าปลีกน้อยลงมาก เพราะการมาของห้าง และร้านค้าออนไลน์
COMMENTS